top of page
ค้นหา
  • fuchenamenity

ไขข้อสงสัย อะไรคือความแตกต่างระหว่างยาสีฟันแบบธรรมดาและยาสีฟันสมุนไพร ?

ยาสีฟันเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทุกบ้านต้องมีเพราะเราทุกคนต้องแปรงฟันอยู่แล้ว ทั้งนี้ปกติเวลาเราออกไปช้อปปิ้งหรือเดินไปซื้อของตามห้างต่างๆ เราจะเห็นว่ามียาสีฟันหลายประเภทและหลายรูปแบบมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นแบบสูตรฟลูออไรด์ทั่วไป หรือสูตรสำหรับเด็ก ไปจนถึงยาสีฟันสมุนไพรที่เป็ฯที่นิยมอย่างมาก ความหลากหลายของยาสีฟันเหล่านี้ทำให้ราคานั้นมีความแตกต่างกันไปตามวัตถุดิบที่ใช้ โดยที่คำเคลมส่วนใหญ่นั้นแทบจะไม่ต่างกันเลย นั้นคือเพื่อฟันสอาด ขาว ลดแบคทีเรีย เพียงแต่อีกหลอดเป็นแบบสูตรธรรมดา และอีกหลอดเป็นสูตรสมุนไพร เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโรงงานผลิตยาสีฟันนั้นจริงใจกับ เราจริงๆ หรือเพียงต้องการรับผลิตยาสีฟันเพื่อต้องการอัพราคา 

ยาสีฟันแบบทั่วไป อะไรคือองก์ประกอบหลัก ?



โดยปกติแล้ว โรงงานผลิตยาสีฟันจะรับผลิตยาสีฟันหลากหลายแบบอยู่แล้ว ทั้งนี้เมื่อพูดถึงยาสีฟันแบบเบสิคทั่วไปจะมีองก์ประกอบหลักอยู่ไม่กี่ประเภทด้วยกัน

  • สารขัดฟัน (abrasives) ทำหน้าที่ขจัดคราบสิ่งสกปรก เศษอาหาร และคราบหินปูนออกจากฟัน สารขัดฟันที่นิยมใช้ ได้แก่ ซิลิกา (silica) โซเดียมคาร์บอเนต (sodium carbonate) และโซเดียมไบคาร์บอเนต (sodium bicarbonate)

  • สารลดเสียดสี (surfactants) ทำหน้าที่ช่วยให้สารขัดฟันกระจายตัวได้ดีและลดการระคายเคืองต่อเหงือกและฟัน สารลดเสียดสีที่นิยมใช้ ได้แก่ โซเดียม ลอเรท ซัลเฟต (sodium laureth sulfate) และโซเดียม ลาูริล ซัลเฟต (sodium lauryl sulfate)

  • สารฟลูออไรด์ (fluoride) ทำหน้าที่ช่วยป้องกันฟันผุ โดยเสริมสร้างชั้นเคลือบฟันให้แข็งแรง สารฟลูออไรด์ที่นิยมใช้ ได้แก่ โซเดียมฟลูออไรด์ (sodium fluoride) และโมโนฟลูออโรฟอสเฟต (monofluorophosphate)

นอกจากองก์ประกอบหลักนี้แล้ว ยาสีฟันบางชนิดอาจมีองก์ประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

  • สารต้านจุลชีพ (antibacterial agents) ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียในช่องปาก สารต้านจุลชีพที่นิยมใช้ ได้แก่ คลอเฮกซิดีน (chlorhexidine) และไตรโคลซาน (triclosan)

  • สารให้ความหอม (flavoring agents) ทำหน้าที่ให้ยาสีฟันมีกลิ่นหอม สารให้ความหอมที่นิยมใช้ ได้แก่ น้ำมันหอมระเหย และสารสังเคราะห์

  • สารเพิ่มความชุ่มชื้น (moisturizers) ทำหน้าที่ช่วยให้ยาสีฟันมีความข้นหนืดและช่วยป้องกันไม่ให้เหงือกแห้ง สารเพิ่มความชุ่มชื้นที่นิยมใช้ ได้แก่ ไกลเซอรีน (glycerin) และโพรพิลีนไกลคอล (propylene glycol)

ยาสีฟันสมุนไพร: อะไรที่ทำให้แตกต่าง ?



นอกเหนือจากยาสีฟันแบบธรรมดาขั้นต้น ยาสีฟันแบบสมุนไพรนั้นก็มีความแตกต่างกันไปใน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ 

ยาสีฟันที่มีสมุนไพรเป็นส่วนประกอบ มักมีส่วนประกอบหลักเหมือนกับยาสีฟันทั่วไป คือ สารขัดฟัน สารลดเสียดสี และสารฟลูออไรด์ แต่อาจมีส่วนประกอบของสมุนไพรเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลสุขภาพช่องปาก

สมุนไพรที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการรับผลิตยาสีฟัน ได้แก่

  • ว่านหางจระเข้ มีสรรพคุณช่วยรักษาแผล ลดการอักเสบ บำรุงเหงือก

  • ใบมิ้นท์ มีสรรพคุณช่วยสร้างสุขภาพช่องปากให้หอมสดชื่น

  • ดอกกานพลู มีสรรพคุณจัดการเชื้อแบคทีเรียและลดการสะสมภายในช่องปาก

  • คาโมมายล์ มีสรรพคุณแก้ปัญหาอาการระคายเคืองจากสาเหตุต่าง ๆ ในช่องปาก

  • การบูร มีสรรพคุณกำจัดเชื้อแบคทีเรียและทำให้เหงือกแข็งแรงขึ้น

นอกจากนี้ ยาสีฟันสมุนไพรบางชนิดอาจมีส่วนประกอบอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น

  • น้ำมันหอมระเหย ช่วยให้ยาสีฟันมีกลิ่นหอมและช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย

  • เกลือ ช่วยขจัดคราบหินปูน

  • สารสกัดจากพืช เช่น สารสกัดจากเปลือกไม้สน สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ สารสกัดจากใบสะระแหน่ เป็นต้น ที่ช่วยดูแลสุขภาพช่องปากในด้านต่างๆ เช่น ป้องกันฟันผุ ป้องกันโรคเหงือกอักเสบ บรรเทาอาการเสียวฟัน เป็นต้น

เราได้เห็นกันไปแล้วว่ายาสีฟันทั้งสองแบบนั้นมีความแตกต่างหรือเหมือนกันอย่างไรบ้าง สำหรับการเลือกใช้ แนะนำว่าควรเลือกยาสีฟันให้เหมาะสมกับความต้องการและปัญหาสุขภาพช่องปากของแต่ละบุคคล เช่น หากต้องการป้องกันฟันผุ ควรเลือกยาสีฟันที่มีสารฟลูออไรด์ หากมีปัญหาเหงือกอักเสบ ควรเลือกยาสีฟันที่มีสารต้านจุลชีพที่มีฤทธิ์อ่อนโยน หากแพ้สารเคมี ควรเลือกยาสีฟันสมุนไพรที่มีส่วนผสมจากสมุนไพรที่ไม่เป็นอันตราย เป็นต้น 


ดู 11 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page